การแสดงคุณประโยชน์ของสินค้าบนบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ตามพระราชบัญญัติ
การแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของสินค้าลงบนบรรจุภัณฑ์ มีผลงานการวิจัยระบุว่า มีความสำคัญต่อการสร้างยอดขายเพียงร้อยละ 66 แต่ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องระบุรายละเอียดลงบนบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากเป็นไปตามพระราชบัญญัติอาหาร ที่กำหนดให้บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทุกชิ้นจะต้องแสดงข้อมูลเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ไว้อย่างชัดเจน
การแสดงคุณประโยชน์ของสินค้าบนบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
จากพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ที่ระบุให้บรรจุภัณฑ์ทุกชิ้นต้องแสดงข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของสินค้า นอกจากผู้กประกอบการส่วนใหญ่จะต้องระบุข้อมูลสินค้าตามพระราชบัญญํติแล้ว ยังแสดงข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจซื้อของบริโภคลงไปด้วย
1.ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของสินค้าที่ต้องระบุตามพระราชบัญญัติ ได้แก่
1.ระบุปริมาณสุทธิของผลิตภัณฑ์ ซึ่งหมายถึง น้ำหนักหรือปริมาณของอาหารที่ไม่รวมบรรจุภัณฑ์
- ระบุส่วนประกอบที่สำคัญ โดยระบุปริมาณเป็นร้อยละของน้ำหนักและเรียงลำดับจากน้อยไปหามาก
- ระบุส่วนประกอบหรือวัตถุปรุงแต่งที่เติมลงไปในอาหาร
- ระบุวันที่ผลิต วันหมดอายุ หรือวันที่ควรบริโภคก่อน
5.รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษา หรือคำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมอาหารเพื่อบริโภค
6.ข้อควรระวังหรือคำเตือนและวิธีป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น (ถ้ามี)
2.ข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจซื้อของบริโภค
นอกจากผู้ประกอบการจะต้องลงรายละเอียดเกี่ยวกับประโยชน์ของสินค้าลงบนบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มตามพระราชบัญญัติแล้ว ยังมีการลงประโยชน์ของสินค้าที่เป็นลักษณะการโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริภคเกิดความสนใจในตัวสินค้า เช่น ข้อมูลที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่ามีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ ตัวอย่างเช่น
1.สินค้ากำลังอยู่ในช่วงลดราคา มีรายการแจกแถมหากทำตามเงื่อนไข หรือมีโปรโมชั่นอื่นๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าเห็นถึงประโยชน์และข้อดีในการตัดสินใจซื้อ
2.สรรพคุณของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ มีประโยชน์อย่างไรต่อผู้บริโภค เช่น เป็นอาหารออร์แกนิตที่ทุกขั้นตอนการผลิตไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ
3.บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่นำมาใช้ เป็นวัสดุจากธรรมชาติ สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แสดงให้รู้ว่านำมาใส่อาหารแล้วปลอดภัยต่อผู้บริโภค
4.บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ออกแบบมาเป็นพิเศษ เมื่อลูกค้าใช้สินค้าหมดแล้ว สามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆได้อีก
5.ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น นำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสินค้ามอบให้แก่องค์กรต่างๆเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม เป็นการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าหรือผู้บริโภครู้ว่าเมื่อซื้อสินค้าแล้วได้ร่วมทำบูญหรือได้ร่วมทำประโยชน์ต่อสังคมด้วย
เทคนิคในการกระตุ้นยอดขายหรือสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าและผู้บริโภคตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ โดยใช้ประโยชน์จากบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าไม่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตหรือไม่ทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น